แก้ไข จุดอ่อนขององค์กร ป้องกันไม่ให้ พนักงานลาออกบ่อย
พนักงานลาออกบ่อย เป็นเรื่องที่พบเจอได้เสมอ โดยเหตุผลหลักของการลาออกจากงานคือ หางานใหม่ ดังนั้น ปัญหาหนักเลยตกอยู่ที่องค์กรว่าจะหา พนักงานใหม่ ยังไง เพราะใช่ว่าจะเป็นเรื่องง่ายๆ ต่อให้คน ส่งใบสมัคร มาเยอะแค่ไหน สุดท้ายก็ต้องเลือก คนสมัครงาน ที่มีคุณสมบัติตามตำแหน่งงานที่กำหนดเอาไว้ ซึ่งทุกอย่างใช้เวลาพอสมควร เพื่อไม่ให้พนักงานลาออกจากงานอีก ต้องแก้ไข จุดอ่อนขององค์กร
ไขข้อข้องใจ ทำไม พนักงานลาออกบ่อย มากๆ
พนักงานลาออกบ่อย ใครๆ ก็เข้าใจว่า เป็นคนไม่มีความอดทน แต่การไม่อดทนนั่นแหละ พนักงานหนึ่งคนต้องแบกรับอะไรไว้ตั้งมากมาย บางทีอาจจะเกิดจาก จุดอ่อนขององค์กร ก็ได้เหมือนกัน ซึ่งเหตุผลหลักๆ ที่พนักงานลาออกบ่อย คือ
- ความก้าวหน้าในองค์กร
- หน้าที่ที่หนักอึ้งจนเกินไป
- ทำงานไม่มี Work Life Balance
- สภาพแวดล้อมการทำงาน
- สวัสดิการของพนักงาน
- ผลตอบแทนไม่คุ้มค่า
- ขาดปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับคนในองค์กร
นี่คือเหตุผลหลักที่ทำให้ใครต่อใครต่างก็ ลาออกจากงาน กันทั้งนั้น ยกตัวอย่างเช่น ถ้าตำแหน่งที่ทำไม่ได้รับการสนับสนุนให้มีความก้าวหน้า การลาออก ไปทำงานที่บริษัทใหม่จึงเป็นการเปิดโอกาสให้ตนเองมากกว่า เอาเป็นว่า แต่ละคนก็มีสิทธิ์เลือกบริษัทในฝัน สวัสดิการที่เพียบพร้อม ผลตอบแทนที่คุ้มค่าให้กับตัวเองทั้งนั้น
อุดรอยรั่ว จุดอ่อนขององค์กร เพื่อแก้ไขปัญหา พนักงานลาออก
คงเป็นเรื่องที่ไม่ดีแน่ หากองค์กรขาดบุคลากรที่เก่ง และมีความสามารถไป การหาคนเข้ามาทำงานว่ายากแล้ว การรักษาให้คนอยู่ในองค์กรนั้นยากยิ่งกว่า ดังนั้น ต้องมาดูกันว่า จุดอ่อนขององค์กร ในส่วนไหน ที่ทำให้ พนักงานลาออกบ่อย
องค์กรเป็นแบบไหน ก็แจ้งไปตั้งแต่เริ่มสัมภาษณ์งาน
จุดอ่อนองค์กร ข้อแรก เริ่มตั้งแต่สัมภาษณ์งานแล้ว โดยปกติ การสัมภาษณ์งาน คนที่เป็น ผู้สัมภาษณ์งาน มักจะเตรียมตัวมาดีมาก และรู้ข้อมูลของบริษัทพอสมควร เพื่อให้เป็นต่อใน การสัมภาษณ์งาน เพื่อสร้างความประทับใจให้กับองค์กรที่กำลังจะเข้าไปทำงานด้วย แต่ฝั่งองค์กรเอง มักกั๊กข้อมูล เกี่ยวกังองค์กรเอง ทำให้เกิดความเข้าใจผิด
เพื่อไม่ให้คนสัมภาษณ์งานคิดไปเอง และเกิดการเข้าใจผิดใหญ่โตไปกว่านี้ ทางที่ดีองค์กรก็ควรบอกไปเลยว่า องค์กรเป็นแบบไหน วัฒนธรรมองค์กรเป็นแบบไร เพื่อให้ผู้สัมภาษณ์งานเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง และคิดว่าตนเองเหมาะสมกับองค์กรหรือไม่ เพราะทุกครั้งที่มีการลาออกจากงานอีกหนึ่งเหตุผลก็ รับไม่ได้กับวัฒนธรรมองค์กรที่เกิดขึ้น เช่น
- ระบบอาวุโส ความคิดผู้ใหญ่ ความถูกต้องของผู้ใหญ่ คือถูกเสมอ
- คนทำงานหนัก เงินเดือนน้อย คนไม่ทำอะไรเลย ได้รับคำชื่นชม
- การเล่นพรรคพวกในที่ทำงาน เลือกที่รักมักที่ชัง
ซึ่งโอกาสนี้นี่แหละ ที่ผู้สัมภาษณ์จะได้บอกข้อดีขององค์กรตัวเองว่า จริงๆ แล้วเรามีวัฒนธรรมองค์กรอย่างไร เปิดความคิดเสรี ไม่เห็นผิดเป็นถูก ระบบอาวุโสมีจริงแต่ก็ว่ากันไปตามผิด และทุกคนเท่าเทียม ฯลฯ องค์กรก็มีโอกาสได้คนเก่งๆ เข้าร่วมงาน
สวัสดิการ พนักงาน ที่ตอบโจทย์กับคนยุคใหม่ (Work Life Balance)
สวัสดิการพนักงาน เป็นอีกหนึ่งเงื่อนไขจะช่วยตัดสินใจว่าจะอยู่บริษัทนี้ต่อไปดีหรือเปล่า สวัสดิการไม่ยืดหยุ่นพอ ก็ต้องบอกลา ในขณะเดียวกัน สวัสดิการของพนักงาน มีผลกับคนกำลังหางานด้วย หากเขียน ประกาศสมัครงาน แล้วระบุ สวัสดิการพนักงาน ให้ชัดเจน ก็เป็นแรงดึงดูดให้พวกเขาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในองค์กรได้เหมือนกัน
หากสวัสดิการของพนักงาน เอื้อประโยชน์ที่มากที่สุดแก่พนักงาน และเป็นขวัญกำลังใจเพื่อให้พนักงานในองค์กรทำงานอย่างมีความสุข ดังนั้น สวัสดิการ จึงเป็นสิ่งแสดงให้เห็นว่า องค์กรใส่ใจพนักงานมากเพียงใด สวัสดิการพื้นฐาน ที่ทุกบริษัทควรมีคือ
- ประกันสุขภาพกลุ่ม
- ประกันสังคม
- ประกันทันตกรรม
- รถรับส่งให้พนักงาน
- อาหารกลางวัน
- ค่าล่วงเวลา
- ค่าน้ำมันรถ (เวลาออกจากต่างหวัด)
- ค่าโทรศัพท์
จะเห็นได้ว่า สวัสดิการพนักงาน มีทั้งเงินและไม่เป็นเงิน แล้วอย่างนี้เรียกได้ว่าเป็น จุดอ่อนขององค์กร ได้ยังไง คำตอบคือ ได้! เพราะการทำงานสมัยใหม่ ทำงานที่บ้านก็ได้ หรือ ทำงานนอกออฟฟิศก็ได้ ดังนั้น สวัสดิการพนักงานในเรื่องของ “เวลา” เลยจะแก้จุดอ่อนขององค์กรได้ดีเลยทีเดียว
หากได้ทำงานในพื้นที่ที่สร้างสรรค์ไอเดียได้เยอะกว่าห้องทำงานสีขาว มีพาร์ทิชั่นกั้น หรือถ้าในองค์กรมีพื้นที่สีเขียวที่ช่วยเติมไอเดียในการทำงานแล้ว ลองเปลี่ยน สวัสดิการพนักงานในเรื่องของเวลาเข้างาน ให้พนักงานได้มีโอกาสได้เลือกด้วยตัวเอง ไม่ลดเวลาทำงาน แต่ให้เลือกเวลาเข้า-เลิกงาน ก็น่าจะตอบโจทย์คนในองค์กรได้ดีเลยทีเดียว แต่เรื่องนี้ต้องดูภาพรวมขององค์กรด้วยว่าจะทำได้มากน้อยแค่ไหน
ความคิดเห็นของทุกคนมีความหมาย จงรับฟังอย่างเท่าเทียม
เมื่อได้เป็นส่วนหนึ่งในองค์กรแล้ว ก็ย่อมอยากให้องค์กรพัฒนาไปข้างหน้าได้ไกลขึ้น นั่นก็เพื่อผลประโยชน์ของตัวพนักงานเอง และองค์กรก็ด้วย แต่บางที เสียงเล็กๆ ของตำแหน่งเล็กๆ ก็ไร้ความหมาย ไร้ตัวตน เพียงเพราะเห็นว่า เป็นความคิดที่ไม่สามารถจะเป็นจริงได้
ระบบอาวุโสในการทำงาน ของคนไทย มีมานานมาก แต่รู้ไหมว่า ส่งผลกระทบกับการทำงานของ เด็กรุ่นใหม่ มากพอสมควร เพราะเด็กไม่สามารถโต้แย้งอะไรได้เลย ถึงแม้ว่าจะโต้แย้งไป ก็ไร้ค่าอยู่ดี ในเมื่อไม่เห็นคุณค่าในความคิดที่เสนอไป ไม่รับฟังอย่างเท่าเทียม การลาออก เลยเป็นหนทางสุดท้ายที่จะแก้ปัญหานี้ได้
ไม่ได้บอกว่า ระบบอาวุโส นั้นมันแย่แต่อย่างใด คนไทยมีความเคารพให้กับผู้ที่โตกว่าอยู่แล้ว แต่ในเรื่องของการทำงาน ระบบอาวุโส กำลังขัดขวางเจริญและความก้าวหน้าในการทำงาน ถึงจะบอกว่าอาบน้ำร้อนมาก่อนก็เถอะ แต่ยุคสมัยนี้มันก้าวไปไกลแล้ว
แค่ฟังก็ดีแล้ว แม้ยังจะไม่ทำตาม แต่แค่แสดงออกว่า รับฟังความคิดเห็นอย่างเท่าเทียม ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมากแล้ว การที่ผู้ใหญ่ในที่ทำงาน คนทำงานเก่าแก่มานานมาก จะเก๋าเกมกว่า แต่เด็กรุ่นใหม่ที่มีความคิดสร้างสรรค์ และพร้อมจะเสนอวิธีทำงานแบบใหม่ๆ ก็ถูกปัดทิ้งเพียงเพราะเป็นเด็กที่อายุน้อยกว่า แล้วแบบนี้จะไม่เรียกว่า จุดอ่อนในองค์กร ได้อย่างไรกัน ดังนั้น ควรรับฟังความคิดเห็นอย่างเท่าเทียม นั่นก็เพื่อประโยชน์ของคนส่วนรวม
การลาออกจากงาน มีอยู่ไม่กี่เรื่องหรอก ถ้าไม่ใช่เรื่องงาน ก็เรื่องเงิน หรือไม่ก็เรื่องคน และทั้งสามสิ่งนี้ส่งผลต่อการทำงานร่วมกันมากๆ ถ้าเงินกับงานไม่สัมพันธ์กัน หรือมี Toxic Person ในองค์กร ก็ไม่แปลกที่ พนักงานลาออกบ่อย ดังนั้น ควรรีบอุดรอยรั่ว จุดอ่อนในองค์กร ให้ทันเวลา ก่อนที่จะสายเกินแก้ แม้พนักงานจะหาได้เมื่อไหร่ก็ได้ แต่พนักงานที่พร้อมจะทำงาน และมีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับตำแหน่ง ไม่ได้หาง่ายอย่างคิด
Kinkhao (Thailand) Co.,Ltd. (Head Office)
790/19, 1st Floor, No.19,
Soi Sukhumvit 55 (Thonglor) Klongtan Nuea, Wattana, Bangkok 10110
Tax ID: 0105559120641
Customers Service: 083-702-4988